บริการ Logispost Plus อัตราค่าบริการคิดอย่างไร

	โลจิสโพสต์ พลัส     รายละเอียด เป็นบริการเสริมของบริการ Logispost เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดส่งสิ่งของขนาดใหญ่ให้ถึงปลายทางในเวลาที่รวด เร็วขึ้น และสามารถนำจ่ายให้ถึงสถานที่ของผู้รับ เหมาะสำหรับการขนส่งสัมภาระเดินทาง อุปกรณ์การท่องเที่ยว ของฝาก ซึ่งมีน้ำหนักมากหรือมีบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่   เงื่อนไข - น้ำหนักสูงสุดได้ถึง 200 กิโลกรัม - มาตรฐานการนำจ่ายภายใน 3 วันทำการ - นำจ่าย ณ ที่อยู่เฉพาะพื้นที่ 104 ที่ทำการ (ดูรายละเอียดในส่วนดาว์นโหลดข้อมูลเพิ่มเติม) หรือรอจ่าย ณ ที่ทำการที่อยู่ใกล้ที่อยู่ผู้รับ   สถานที่จัดจำหน่าย สอบถามข้อมูลทาง Call Center 1545 รายชื่อจุดให้บริการรับฝาก-นำจ่ายบริการ Logispost และ Logispost Plus...คลิก

คิดอัตราค่าบริการเพิ่มจากบริการ Logispost ดังนี้

ส่งของใหญ่ทางโปรษณีย์ Logispost Plus (โลจิสโพสต์ พลัส)

ส่งของใหญ่ทางโปรษณีย์ Logispost Plus (โลจิสโพสต์ พลัส)
ส่งของใหญ่ทางโปรษณีย์ “โลจิสโพสต์ พลัส” ถึงที่หมายไวราคาสบายกระเป๋า

เศรษฐกิจแบบนี้ดูเหมือนใครๆ ก็หันไปค้าขายกันหมด แต่สินค้าชิ้นใหญ่ๆ ปัญหาอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นคือ เรื่องของการขนส่ง เพราะถ้าไม่มีพาหนะที่มีพื้นที่เพียงพอที่จะบรรทุกกลับ การตัดสินใจซื้อก็จะชะลอออกไป
“ไปรษณีย์ไทย” ตอบโจทย์นี้ได้ ด้วยบริการใหม่ล่าสุด ที่รู้จักกันในชื่อ “โลจิตโพสต์ พลัส” ให้บริการจัดส่งพัสดุถึงจุดหมายภายในเวลาเพียง 3 วัน ด้วยสนนราคาที่ถูกลงกว่าเดิม โดยคิดอัตราค่าบริการตามปริมาตรของสินค้า แทนที่จะคิดตามน้ำหนักอย่างที่เคยเป็นมา
เป้าหมายแรกนั้นเป็นการยกระดับการบริการ แต่สิ่งที่ได้ตามมาคือ การส่งเสริมการค้าแบบอี-คอมเมิร์ซ เพราะที่ผ่านมาการซื้อขายออนไลน์ ไม่ขยายเท่าที่ควร ส่วนหนึ่งเนื่องจากต้องบวกค่าบริการจัดส่งเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาสินค้าชิ้นนั้นราคาแพงกว่าที่ควรจะเป็น
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) จากบทบาทเดิมคือ การนำจ่ายจดหมาย พัสดุขนาดเล็ก ซึ่งในส่วนของการให้บริการขนส่งพัสดุน้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม ปัจจุบันขยายบริการเพิ่มขึ้นได้ถึง 200 กิโลกรัม

“โลจิสโพสต์” เป็นการยกระดับจากการส่งพัสดุ คือบริการพื้นฐานของไปรษณีย์จากที่แต่เดิมให้บริการส่งพัสดุที่มีน้ำหนัก ตั้งแต่ไม่กี่ขีดไปจนไม่เกิน 20 กิโลกรัม แต่หลังจากที่ ร.ส.พ. (องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับส่งสินค้าพัสดุภัณฑ์ขนาดใหญ่ยุบเลิกกิจการไปเมื่อปี พ.ศ.2548 มีลูกค้าหลายรายขอมาทางไปรษณีย์ไทยให้ช่วยรับหน้าที่จัดส่งพัสดุชิ้นใหญ่ให้

ความจริงก่อนหน้านี้ไปรษณีย์ไทยก็ได้ทดลองนำร่องมา 3 ปี แต่ให้บริการเฉพาะในบางพื้นที่ เพราะเรามีรถขนเมล์วิ่งขึ้นล่องอยู่ทุกวัน โดยเราใช้การบริหารระวางที่ว่างให้สามารถบรรจุของใหญ่ได้ ปรากฏว่า บริการนี้ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะทางภาคเหนือ ที่ ปณ.ลำพูนจะรับบริการขนส่งเฟอร์นิเจอร์เครื่องเรือนต่างๆ บางชิ้นหนักเป็นร้อยกิโล

เมื่อได้รับการร้องขอมา ทาง ปณท.คิดว่า เราก็น่าจะทำได้ ประกอบกับการเห็นโอกาสทางการตลาด ทางผู้บริหารจึงตัดสินใจเปิดให้บริการจากเดิมมีเพียงบางจุด เปิดให้บริการทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2550 โดยจำกัดน้ำหนักอยู่ที่ 20-200 กิโลกรัม

“ขณะนี้บาง ปณ.สามารถขนได้มากกว่า 200 กิโลกรัม อย่างรถเอทีวีน้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัม เราก็ขนมาแล้ว เรามีบริการฝากส่ง 1,200 แห่งทั่วประเทศ สามารถติดตามตรวจสอบเส้นทางของพัสดุได้ 24 ชั่วโมง ผ่านเว็บไซต์ http://www.thailandpost.com และมีการรับประกันตามราคาสินค้าไม่เกิน 2,000 บาท”

ในส่วนของการคิดค่าบริการนั้น ไม่ได้คิดตามน้ำหนัก แต่คิดตามปริมาตร กว้างxยาวxสูง สินค้าที่นิยมใช้บริการโลจิสโพสต์ จะเป็น “รถมอเตอร์ไซค์” ซึ่งแต่เดิม กำหนดอัตราค่าบริการตามขนาด ซีซี.ของรถ

“ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนต่างจังหวัดมาทำงานกรุงเทพฯ เวลาจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ส่วนมากจะใช้บริการไปรษณีย์ส่งรถมอเตอร์ไซค์ แล้วตัวเองนั่งรถ บ.ข.ส.กลับ เพราะประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าและปลอดภัยกว่า โดยจะเสียอัตราค่าบริการจัดส่งรถมอเตอร์ไซค์อยู่ที่ประมาณ 1,000 กว่าบาท ถึง 2,000 กว่าบาทต่อคัน บางคนซื้อตู้เย็น ซื้อทีวี ส่งไปให้พ่อแม่ที่บ้านต่างจังหวัดก็มี

บางคนใช้บริการไปรษณีย์ช่วยขนของย้ายบ้านข้ามจังหวัดด้วยซ้ำ เช่น กรณีของข้าราชการที่ต้องโยกย้ายไปอยู่จังหวัดอื่น ขนของทั้งหมดมาฝากส่งทางไปรษณีย์ ปณท.ก็รับ โดยคิดราคาเหมา และสามารถจัดส่งให้ถึงปลายทาง แต่จะมีค่าบริการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย”

“บริการโลจิสโพสต์ เป็นบริการ “โพสต์ ทู โพสต์” คือไปรษณีย์ถึงไปรษณีย์ หมายความว่า ต้นทางต้องมาส่งที่ไปรษณีย์โดยหีบห่อมาเป็นอย่างดี เมื่อจัดส่งไปถึงแล้ว ทางไปรษณีย์ปลายทางจะแจ้งไปที่ผู้รับให้มารับ ซึ่งบางสินค้าจะมีเงื่อนไขชัดเจน เช่น รถมอเตอร์ไซค์จะต้องถ่ายน้ำมันออกก่อน เมื่อมารับก็ต้องเอาน้ำมันมาเติมเอง ซึ่งแม้จะมีเงื่อนไขแบบนี้แต่ผู้คนก็ยังนิยมใช้ เพราะมีความสะดวก คล่องตัว

ปัจจุบันที่ ปณ.หลักสี่ จึงมีแผนกโลจิสโพสต์โดยตรง เพราะอัตราการใช้บริการสูงขึ้นเรื่อยๆ เฉพาะรถมอเตอร์ไซค์เดือนเดือนหนึ่งมีผู้ฝากส่งมากกว่า 1,000 คัน บางครั้งระวางไม่พอใส่ ต้องเช่ารถพ่วงสำหรับบรรทุกรถมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะ

สำหรับบริการ “โลจิสโพสต์ พลัส” นั้น เพิ่งทดลองเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2552 เพื่อเป็นการยกระดับการให้บริการกับลูกค้า โดยเฉพาะในเรื่องเวลา ที่รวดเร็วขึ้นจากไม่เกิน 7 วัน ขยับขึ้นมาเป็นภายใน 1-3 วัน โดยคิดค่าบริการเพิ่มขึ้นจาก “โลจิสโพสต์” อีก 60 บาท ขณะเดียวกันก็เพิ่มอีกบริการ คือ “นำจ่ายถึงมือผู้รับ” โดยคิดค่าบริการเพิ่มขึ้นอีก 60 บาท

“โลจิสโพสต์ พลัส เป็นบริการใหม่ที่ทาง ปณท.สร้างขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่มีสัมภาระชิ้นใหญ่ เช่น กระเป๋าเดินทางหรือถุงกอล์ฟ สามารถมาให้เราช่วยขนของให้ โดยจัดส่งถึงที่ ตอนนี้ยังเป็นการนำร่องเปิดเพียง 104 ปณ.ทั่วประเทศ ซึ่งหมายถึง ปณ.จังหวัดของทุกจังหวัด รวมทั้ง ปณ.ในอำเภอใหญ่ๆ”