ต้นสาคูกับการใช้เลี้ยงด้วง ที่ดีจะต้องเป็นต้นที่แก่และแตกแล้ว(หูกวาง)
สาคู เป็นพืชท้องถิ่นในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ มีมากในประเทศไทย มาเลเซีย นิวกินี อินโดนีเซีย และหมู่เกาะต่างๆ ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (FAO,1983) สำหรับประเทศไทยในเขตพื้นที่ทางภาคใต้หลายจังหวัด เช่น จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา สตูล ฯลฯ บริเวณสภาพที่ลุ่มริมฝั่งแม่น้ำลำคลอง หรือในพื้นที่ที่ลุ่มริมฝั่งแม่น้ำลำคลอง หรือในพื้น ที่ที่มีการระบายน้ำไม่ดี พืชเศรษฐกิจไม่สามารถขึ้นได้ จะมีพืชชนิดหนึ่งเรียกว่า “ต้นสาคู” ขึ้นเรียงรายอยู่ทั่วไปตามธรรมชาติ และสามารถเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ประมาณ 3 ล้านไร่ ต้นสาคูเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว อยู่ในตระกูลปาล์ม ที่พบขึ้นในบ้านเรา มีอยู่ 2 ชนิด คือ ชนิดไม่มีหนาม (Metroxylon sugu Roltb.) และชนิดมีหนาม (Metroxylon rumphii Mart.) (ไพรัตน์, 2524) ต้นสาคูขยายพันธุ์โดยการแตกหน่อ เมื่อต้นเก่าตายจะมีหน่องอกออกมาแทนอยู่เรื่อยๆ โดยไม่จำเป็นต้องปลูกทด แทน ใบของต้นสาคูที่ร่วงหล่นลงมาบนพื้นดิน จะคลุมพื้นดินอย่างหนาแน่นจนวัชพืชขึ้นไม่ได้ ถือเป็นการกำจัดวัชพืชไปด้วยวิธีหนึ่ง ใบของต้นสาคู สามารถนำไปมุงหลังคาแทนใบจาก ลำต้นสามารถนำมาสร้างบ้าน ทำเชื้อเพลิง และนำมาผลิตเป็น แป้งได้ โดยเฉพาะส่วนกลาง (ไส้) ของลำต้นจะให้แป้งมากที่สุด แป้งที่ผลิตจากต้นสาคูจะมีสีเหลือง และจะมีสิ่งสกปรกอยู่มาก ระยะของต้นสาคูที่เหมาะสมจะตัดมาทำแป้ง จะมีอายุประมาณ 9 - 10 ปี โดยเฉพาะที่ช่วงความสูง 7.5 - 9 เมตร จากพื้นดินจะ มีแป้งมากที่สุด ระยะนี้ต้นสาคูจะตั้งท้อง และเริ่มสร้าง*ก พอหลังจากระยะนี้แล้ว ลำต้นของสาคูจะมีลักษณะก* และตาย ในที่สุด ต้นสาคูต้นหนึ่งจะสามารถผลิตแป้งได้ประมาณ 90 - 100 กก. เกษตรกรทางภาคใต้ของประเทศไทย ตั้งแต่จังหวัดชุมพร ลงไป จะผลิตแป้งจากต้นสาคูกันมาก
หน้าที่เข้าชม | 273,362 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 190,338 ครั้ง |
เปิดร้าน | 21 เม.ย. 2555 |
ร้านค้าอัพเดท | 26 ส.ค. 2568 |